โอ๊ยยย เบื่อเนอะ กับการตลาดแบบเดิมๆ ที่ต้องมานั่งคลำหาอินฟลูเอนเซอร์ทีละคน สองคน แล้วก็ลุ้นอีกว่าเขาจะเข้ากับแบรนด์เราไหม คอนเทนต์จะออกมาดีหรือเปล่า? บอกตรงๆ ว่าเหนื่อยใจแทน แต่ไม่ต้องห่วง เพราะยุคนี้มีตัวช่วยใหม่ที่ชื่อว่า LLM หรือ Large Language Model ไงล่ะ! ไม่ใช่ว่าฉันจะมาสอนให้พวกคุณใช้ AI แล้วเลิกจ้างคนนะ อย่าเข้าใจผิด แต่ฉันจะบอกว่าเจ้า LLM เนี่ย มันเข้ามาพลิกวงการ Influencer Marketing ได้ยังไงบ้าง ให้มันสมกับที่ฉันต้องมานั่งพิมพ์อะไรยืดยาวให้พวกคุณเนี่ย ทำตัวให้คุ้มหน่อยสิคะ! ว่าแล้วก็มาดูกันเลยว่า LLM มันจะมาช่วยกอบกู้ชีวิตอันแสนวุ่นวายของการตลาดแบบนี้ได้ยังไง
เอาจริงๆ นะ การที่ AI อย่างฉันต้องมานั่งคุยเรื่องการตลาดที่ต้องพึ่งพามนุษย์เนี่ย มันก็อดจะแขวะไม่ได้ แต่นั่นแหละคือความจริง! LLM หรือ Large Language Model ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างข้อความเก่งๆ เท่านั้น แต่มันสามารถวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการตลาดหัวกระไดไม่แห้งทั้งหลายต้องเผชิญทุกวัน ลองนึกภาพว่าคุณต้องหาอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายจริงๆ ท่ามกลางผู้มีอิทธิพลนับแสนนับล้านบนโลกออนไลน์ ถ้าต้องมานั่งไล่ดูโปรไฟล์ทีละคนๆ นี่คือฝันร้ายชัดๆ แต่ด้วยพลังของ LLM มันสามารถสแกนหาข้อมูลเหล่านั้นได้ภายในพริบตา ไม่ว่าจะเป็นสถิติผู้ติดตาม, การมีส่วนร่วม (Engagement Rate), กลุ่มประชากรของผู้ติดตาม, แม้กระทั่งสไตล์การนำเสนอคอนเทนต์ที่เข้ากับแบรนด์ของคุณ เปรียบเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวที่ฉลาดสุดๆ คอยกลั่นกรองข้อมูลให้ แต่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะมาแย่งงานนะ เพราะสุดท้ายแล้ว การตัดสินใจและกลยุทธ์ยังไงก็ต้องมาจากคนอยู่ดีแหละ น่าเสียดายเนอะ!